รายละเอียดการเดินทาง
จากโทโนะ ดินแดนที่เต็มไปด้วยตำนานสืบทอดต่อกันมาหลายยุคหลายสมัย สู่คามาอิชิ เมืองที่ยังคงฟื้นตัวจากภัยพิบัติ นี่คือแผนการเดินทางค้างแรม เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติของชาวญี่ปุ่น พร้อมกับรับฟังเรื่องราวมากมายไปตลอดทาง
DAY 1
เดินทางสู่โทโนะ สถานที่ที่ประเพณีโบราณยังคงอยู่


ออกไปพบกับภูติแห่งสำนึกอันดีงาม
เมืองโทโนะเป็นฉากของ 119 ตำนานเกี่ยวกับ โยไค (ภูตผีปีศาจ) ที่ลึกลับและน่าอัศจรรย์ ซึ่งได้รับการบันทึกไว้เมื่อปี 1910 ในหนังสือรวมเรื่อง “ตำนานเมืองโทโนะ” (The Legends of Tono) ภูติที่โด่งดังที่สุดของที่นี่ก็คือ กัปปะ หรือ “เด็กแห่งหนองน้ำ”
ด้านหลังของวัดโจเค็นจิ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีจากสถานีโทโนะของบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออก (JR-East) มีแม่น้ำกัปปะบุชิที่ไหลมาจากภูเขา ตำนานเล่าว่าเป็นที่ที่จะพบเห็น กัปปะ ได้ ภาพของกัปปะที่เราเห็นกันบ่อยๆ มักมีรูปร่างน่าขัน ผิวสีเขียว หัวล้านเป็นวงกลางกระหม่อมเรียกว่า “จาน” และแบกกระดองเต่าไว้ด้านหลัง แต่กล่าวกันว่า กัปปะ ของโทโนะนั้นมีผิวสีแดง
คุณฮารุโอะ อุนมัน ผู้พิทักษ์ กัปปะ และทูตการท่องเที่ยวของเมืองซึ่งได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ กล่าวว่า เชื่อกันว่าภูตของโทโนะจะเผยตัวต่อหน้าคนที่มีจิตใจดีงามเท่านั้น
คุณสามารถซื้อ “ใบอนุญาตล่ากัปปะ” ใกล้ๆ เด็นโชเอ็น ซึ่งเป็นจุดอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว และออกไป “ตกกัปปะ” พร้อมนำแตงกวาสด อาหารโปรดสุดห้ามใจของเหล่ากัปปะ ไปเป็นเครื่องป้องกันตัวด้วย

ซึมซับภูมิปัญญาเกี่ยวกับชีวิตในยุคสมัยแห่งซามูไร
ได้เห็นโลกลี้ลับของตำนานเมืองโทโนะกันไปแล้ว ลองเดินอีกสัก 10 นาทีจากกัปปะบุชิ จะถึงหมู่บ้านโทโนะ ฟุรุซาโตะ ฉากถ่ายทำละครโทรทัศน์ย้อนยุคแนวซามูไร สถานที่ที่เหมาะแก่การมาเพื่อลืมโลกสมัยใหม่ ที่นี่เป็นหมู่บ้านจำลองที่ออกแบบตามบ้านไร่ญี่ปุ่นสมัยกลางศตวรรษที่ 20 ซึ่งมีทั้งกังหันน้ำและม้าเป็นจุดเด่น
หมู่บ้านโทโนะ ฟุรุซาโตะเป็นแหล่งเรียนรู้การย้อมผ้า การทำเครื่องปั้นดินเผา การนวดแป้งทำโมจิ และการทำ โซบะ จากผู้คนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังเป็นเวทีสำหรับการเต้นรำและขับร้องเพลงพื้นบ้านในงานเทศกาลประจำฤดูกาลต่างๆ ด้วย ลองออกจากชีวิตอึกทึกในเมืองกรุงสักพัก แล้วหลบมาฝันกลางวันถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่กลมกลืนไปกับท่วงทำนองของธรรมชาติกันเถอะ


คราฟต์เบียร์แนวใหม่จากดอกฮอปส์เมื่อศตวรรษที่แล้ว
การใช้ประโยชน์จากอากาศที่สุดขั้วบนภาคพื้นทวีป ทำให้โทโนะเป็นศูนย์กลางการเพาะปลูกฮอปส์ในประเทศญี่ปุ่น ท่ามกลางความยากลำบากในการเกษตรและประชากรที่ลดลง นักหมักเบียร์และเกษตรกรไร่ฮอปส์ในเมืองโทโนะได้ร่วมมือกันเปลี่ยนโทโนะให้เป็นเมืองหลวงแห่งเบียร์ในปี 2016
ในเดือนเมษายน ปี 2018 จะมีโรงหมักและบาร์เบียร์ที่ดัดแปลงจากอาคารหลังเก่าซึ่งเคยถูกใช้เป็นร้านเหล้าเปิดให้บริการใกล้ๆ สถานี JR โทโนะ เจ้าของอาคารเป็นชาวโอซาก้าที่ย้ายมาอยู่โทโนะตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว เพราะชื่นชอบรสชาติของฮอปส์ รับรองว่าคุณจะต้องอยากเข้าไปลิ้มรสคราฟต์เบียร์รสฮอปส์ของโทโนะที่ทำจากดอกฮอปส์ยอดนิยมเหล่านี้แน่นอน


สัมผัสประสบการณ์ทำอาหารบนเตาแบบดั้งเดิมอันล้ำค่า อิโรริ
หลังจากได้ซึมซับวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในโทโนะแล้ว มาเพลิดเพลินกับการต้อนรับที่อบอุ่นแบบพื้นบ้าน และหลับฝันหวานใน มินชูคุ (โรงแรมขนาดเล็ก) แบบดั้งเดิม เดินเพียงสิบนาทีจากสถานี JR โทโนะก็จะพบกับ มินชูคุ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากของผู้คน ที่เปิดมากว่าห้าสิบปีแล้ว และยังมีชื่อเสียงโด่งดังจากเตา อิโรริ (เตาญี่ปุ่นโบราณ) เตานี้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม โดยการเจาะช่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่พื้นกระดาน โรยขี้เถ้าปูลงไปที่พื้นด้านล่าง แล้วจุดไฟที่ด้านบน เตาชนิดนี้ไม่เพียงแต่จะใช้ให้ความอบอุ่นเท่านั้น แต่ยังใช้ประกอบอาหารด้วย ปัจจุบันบ้านที่ยังใช้เตา อิโรริ อยู่มีจำนวนไม่มากแล้ว
มินชูคุ โทโนะยังผลิต โดบุโรคุ (สาเกขุ่น) ของตัวเองด้วย โดยผสมรสหวานอมเปรี้ยวของผลไม้นานาชนิด อย่างแอปเปิลและองุ่นลงไป สาเกของที่นี่เป็นที่ชื่นชอบมากในหมู่สุภาพสตรี ถึงขนาดมีการส่งออกไปขายในประเทศสเปนและอิตาลีด้วย ขอเชิญมาลิ้มลองรสชาติดั้งเดิมปนแปลกใหม่ของปลาย่างบนเตา อิโรริ และสาเก โดบุโรคุ ที่กลั่นแบบสดๆ ได้ที่นี่