รายละเอียดการเดินทาง
วัดและสวนในแหล่งมรดกโลกฮิราอิซุมิ และผลงานศิลปะกับงานฝีมือแบบดั้งเดิมในแต่ละอำเภอ ผสมผสานกันจนเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าค้นหาของจังหวัดอิวาเตะ เราขอนำเสนอแผนการเดินทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของบริเวณทางตะวันตกเฉียงใต้สำหรับคุณ
DAY 1
เยี่ยมชมฮิราอิซุมิ แหล่งมรดกโลกทางศาสนาที่มีเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น
ล่องเรือไปตามแม่น้ำ ชมความยิ่งใหญ่ของหุบเขาเกบิเค
เริ่มต้นทริปวันแรกที่อิชิโนะเซกิ จุดใต้สุดของจังหวัดอิวาเตะ เราจะได้ชมหน้าผาเกบิเคอันน่าทึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำ กำแพงหุบเขานี้สูงร่วม 100 เมตร ซึ่งสูงพอๆ กับเทพีเสรีภาพในนิวยอร์กเลยทีเดียว
ย้อนกลับไปเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 สถานที่แห่งนี้ยังไม่ปรากฏบนแผนที่ เพราะชาวบ้านในท้องถิ่นไม่ต้องการให้มีเจ้าหน้าที่ของทางการเข้ามาที่แม่น้ำนี้ การล่องเรือชมวิวไปตามสายน้ำอย่างช้าๆ ที่เกบิเคนี้ใช้เวลาไป-กลับประมาณ 90 นาที โดยเราจะได้นั่งบนเรือยาวพร้อมฟังเสียงเพลงขับกล่อมจากคนเรือที่พายเรือไปร้องเพลงไป

เพลิดเพลินกับการรับประทานโมจิเป็นอาหารหรือขนม
หลังจากชมทัศนียภาพของเกบิเคแล้ว เราจะกลับไปที่สถานีอิชิโนะเซกิและลองชิมโมจิ ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้กัน ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ “ขนมโมจิ” เริ่มเป็นที่นิยมไปทั่วทวีปเอเชีย แต่ในบ้านเกิดของโมจิอย่างญี่ปุ่น นอกจากจะเสิร์ฟเป็นของหวานแล้ว โมจิซึ่งมีรสชาติของข้าวที่เด่นชัดยังสามารถนำมาเสิร์ฟแทนข้าวในมื้ออาหารได้ด้วย
การรับประทานโมจิทุกวันเป็นวัฒนธรรมของดินแดนที่ปลูกข้าวได้อุดมสมบูรณ์อย่างอิชิโนะเซกิ ซึ่งทำให้ระลึกถึงเหตุการณ์ทางศาสนาที่เริ่มต้นมาจากคำสั่งของขุนนางที่ปกครองบริเวณนี้ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ถึง 19 สิ่งที่ทำให้วัฒนธรรมการรับประทานโมจิในอิชิโนะเซกิมีหลากหลายรูปแบบมากก็คือ ภูมิปัญญาและความพยายามที่จะปรับปรุงรรสชาติของโมจิที่บรรดาชาวไร่ชาวนาชนชั้นล่างในสมัยก่อนกินกัน ซึ่งเป็นโมจิที่ผสมกับธัญพืชต่างๆ และมีคุณภาพไม่ดีนัก
ลองสั่งเมนูฮิโตคุชิ โมจิเซน ที่ร้านโมจิหน้าสถานีอิชิโนะเซกิดูสิ คุณจะได้ลิ้มรสซอสโมจิ 9 แบบซึ่งมีทั้งแบบหวานและแบบเค็ม ทานพร้อมกับโมจิสดใหม่ร้อนๆ นุ่มๆ

เดินชมฮิราอิซุมิ แหล่งมรดกโลกที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติ
แหล่งมรดกโลกฮิราอิซุมิอยู่ห่างจากอิชิโนะเซกิไปประมาณ 30 นาทีโดยรถยนต์ ฮิราอิซุมิเป็นทั้งชื่อเมืองและชื่อหมู่วัดและสวนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก
ตามความเชื่อเรื่อง “แดนสุขาวดี” ของพุทธศาสนา ฮิราอิซุมิเป็นภาพจำลองของโลกหลังความตายที่บริสุทธิ์ สงบ และปราศจากความทุกข์ที่รอเราอยู่ ผู้ที่มาเยี่ยมเยียนที่นี่จะพบกับความสงบของวัดและสวนที่เกิดจากสภาพแวดล้อมอันเงียบสงบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติ
ท่ามกลางหมู่ต้นไม้ก็มีสิ่งก่อสร้างเรียงรายกันอยู่ โดยมีศูนย์กลางคือคอนจิคิโด ศาลาที่ถูกหุ้มด้วยทองคำเปลวทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นบนหลังคา กำแพงด้านในและด้านนอก ซึ่งคุณสามารถเดินเยี่ยมชมได้ตามอัธยาศัย
ชำระจิตวิญญาณด้วยการนั่งสมาธิแบบเซน
วัดชูซอนจิและวัดโมสึจิในฮิราอิซุมิเปิดให้ผู้มาเยี่ยมชมได้ลองนั่งสมาธิแบบเซน ซึ่งเป็นการฝึกสงบจิตโดยการกำจัดความคิดที่ไม่จำเป็นออกไป ลองนั่งสมาธิหนึ่งชั่วโมงพร้อมกับพระที่จะช่วยนำให้คนที่เพิ่งหัดนั่งสมาธิปลดปล่อยความเครียดและความกังวลในชีวิตประจำวันออกไปได้
หลังจากเดินเที่ยวแล้ว มาดับกระหายด้วยเบียร์ท้องถิ่น
หลังจากเดินเที่ยวชมฮิราอิซุมิและลองนั่งสมาธิแบบเซนแล้ว คุณอยากจะลองชิมเบียร์ท้องถิ่นดูไหม ที่ร้านอาหารและคาเฟ่ข้างๆ ลานจอดรถของวัดชูซอนจิแห่งนี้ คุณสามารถลองลิ้มรสคราฟต์เบียร์ที่หมักด้วยทักษะที่ได้เรียนรู้มาจากโรงกลั่นสาเกในอิชิโนะเซกิได้ โดยเบียร์นี้เคยชนะการแข่งขันในระดับนานาชาติมาถึง 7 รายการ เบียร์ชื่อดังอีกแบบที่ควรต้องลิ้มลองคือ Something Blue ซึ่งเป็นเบียร์หมักจากส่วนผสมสีฟ้าสดจากธรรมชาติที่พัฒนาสูตรจนมาเป็น “เบียร์ที่นำความสุขมาให้” สำหรับใครที่ไม่ดื่มเบียร์ก็สามารถผ่อนคลายไปกับอาหารว่างที่ทำจากผักที่ปลูกในท้องถิ่นและกาแฟได้


เลือกซื้อของที่ระลึกที่ร้านเครื่องเขินฮิเดฮิระนุริ
หากคุณกำลังมองหาของที่ระลึกจากฮิราอิซุมิ เราขอแนะนำจานและเครื่องประดับที่ทำจากเครื่องเขินฮิเดฮิระนุริ ร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับวัดชูซอนจิมีให้เลือกตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวันไปจนถึงเครื่องเขินระดับหรูหรา
ดีไซน์เหล่านี้เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องเขินฮิเดฮิระนุริ ซึ่งใช้เทคนิคที่ช่างฝีมือถ่ายทอดและพัฒนาต่อยอดกันมากว่า 800 ปี เป็นการนำทองคำเปลวมาค่อยๆ แปะด้วยมือลงบนเครื่องใช้ต่างๆ ทีละใบ เช่น แก้วเบียร์ ปากกาหมึกซึม และตะเกียบ เป็นต้น


ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการท่องเที่ยวที่โรงแรมบ่อน้ำพุร้อนพร้อมกับอาหารมื้อโอชะ
หลังจากเที่ยวเหนื่อยมาทั้งวัน ในที่สุดคุณก็จะได้ผ่อนคลายในโรงแรมบ่อน้ำพุร้อน และได้รับประทานอาหารตามฤดูกาลและโซบะในโรงแรมที่มีน้ำบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งอยู่ท่ามกลางภูเขาของฮิราอิซุมิ นอกจากนี้ คุณสามารถไปลองสัมผัสประสบการณ์เก็บผักตอนเช้าตรู่ในสวนหน้าโรงแรมได้ ยกเว้นก็แต่ในฤดูหนาว และคุณยังสามารถเอาผักที่คุณเก็บมารับประทานเป็นอาหารเช้าได้ด้วย สำหรับมื้อเย็น คุณจะได้ลิ้มรสสเต็กหรือซูชิที่ทำจากเนื้อมาเอซาวะ ซึ่งเป็นเนื้อวากิวลายหินอ่อนชั้นเยี่ยมที่แทบจะละลายในปาก